ความเห็นไม่ตรงกันระหว่างฝ่ายโหราศาสตร์ (Astrology) กับดาราศาสตร์ (Astronomy) ถือเป็นความขัดแย้งที่อมตะ โต้แย้งกันยืดยาวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีคำตอบที่เป็นมาตรฐานเดียว โดยต่างฝ่ายต่างมีคำตอบของฝ่ายตนเอง และยืนยันมั่นคงว่า คำตอบฝ่ายตนถูกต้อง
สิ่งที่เห็นไม่ตรงกันประการหนึ่ง คือประเด็นที่ว่า ดาราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ เนื่องจากสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนโหราศาสตร์เป็นความเชื่อ ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์วิทยาศาสตร์ เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ฝ่ายโหราศาสตร์ไม่ยอมรับข้อสรุปนี้
อีกหนึ่งความขัดแย้งคือ ฝ่ายดาราศาสตร์ระบุว่า การเคลื่อนที่ของดวงดาวในระบบสุริยะ มีผลต่อโลกเพียงอย่างเดียว คือทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น-ลง ขณะที่ฝ่ายโหราศาสตร์ยืนยันว่า การเคลื่อนที่ของดวงดาว มีผลต่อการดำรงชีวิตมนุษย์หลายอย่าง
ความขัดแย้งไม่กระทบหมอดู
แม้คำอธิบายของทั้ง 2 ฝ่ายจะถูกหรือผิดอย่างไร ดูจะไม่ส่งผลต่ออาชีพนักโหราศาสตร์หรือหมอดูในประเทศไทยมากนัก โดยจำนวนผู้นิยม “ดูหมอ” หรือลูกค้าของหมอดูที่ยังหนาแน่น เป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่า โหราศาสตร์มีความน่าเชื่อถือในมุมมองของกลุ่มที่เชื่ออย่างนั้น ช่วยให้หมอดูเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความมั่นคง
สำหรับชื่อเรียกผู้ประกอบอาชีพนี้ นอกจากเรียกว่านักโหราศาสตร์และหมอดูแล้ว ยังเรียกว่า โหร โหราจารย์ และนักพยากรณ์ด้วย มีด้วยกัน 3 ประเภท คือ
1. โหรหรือโหราจารย์ ได้แก่หมอดูที่ทำนายดวงชะตาโดยใช้ดวงดาวและจักรราศีเป็นข้อมูล
2. หมอดูโชคชะตาและอนาคต ทำนายดวงชะตาโดยไม่ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาว แต่ใช้ศาสตร์และเครื่องมืออย่างอื่นแทน เช่น ไพ่ยิปซี ไพ่ออราเคิล ลายมือ กราฟชีวิต ฮวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และเลข 7 ตัว เป็นต้น
3. หมอดูผู้วิเศษ ได้แก่ หมอดูร่างทรง
ส่วนหลักโหราศาสตร์ที่สำคัญมี 4 ประเภท ได้แก่ โหราศาสตร์ไทย จีน สากล และยูเรเนียน