ปรากฏการณ์หนึ่งเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์นี้ ก่อให้เกิดกระแสฮือฮาในระดับ “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” หรือพูดกันสนั่นเมือง คือ กรณีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ โดยจัดเป็นวิชาเลือกหรือวิชาศึกษาทั่วไป ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เปิดการเรียนการสอนปีแรกในปีการศึกษา 2561 วิชาที่เปิดสอนได้แก่ โหราศาสตร์ไทยและฮวงจุ้ย
ยืนยันไม่งมงาย
สาเหตุที่ฮือฮากันก็เพราะสถานศึกษาแห่งนี้ เป็นสถาบันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชื่อดังระดับประเทศ แต่กลับเปิดสอนโหราศาสตร์ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ความเชื่อ และความศรัทธา
อย่างไรก็ตาม ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. ชี้แจงว่า ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เป็นกุศโลบายกระตุ้นวิธีคิดของนักศึกษา และเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องดาราศาสตร์ ทั้งยังเป็นการฝึกทักษะการพูดและเล่าเรื่องราวให้น่าสนใจเหมือนหมอดูชั้นนำ ดังนั้น การเปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ของ สจล. จึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ขนานแท้ เพียงแต่ใช้วิชาโหราศาสตร์เป็นเครื่องมือเท่านั้น
วิทยาลัยสงฆ์ก็เอาด้วย
นอกจาก สจล.แล้ว ยังมีสถาบันอุดมศึกษาอีกแห่งหนึ่งเปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ นั่นคือ วิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสาขาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) โดยเปิดสอนหลักสูตรวุฒิบัตรวิชาชีพโหราศาสตร์ รุ่นที่ 1 ปี 2563 จำนวน 3 หลักสูตร ได้แก่ เลขเจ็ดตัวประยุกต์และระบบแผนธาตุ ทักษานักษัตรชั้นต้น และโหราศาสตร์ไทย
ความเคลื่อนไหวของสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 2 แห่งนี้ มีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับความสำคัญของ โหราศาสตร์ และตอกย้ำถึงคุณประโยชน์ของศาสตร์สาขานี้ที่มีต่อมนุษย์ ดังนั้น แม้ว่าโหราศาสตร์จะยังถูกมองในแง่ลบ แต่ก็มีข้อดีให้เลือกมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย